Monday 25 November 2013

ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับ HOME SCHOOl !!! ตอนที่ 1

สวัสดีค่ะ

สัปดาห์นี้หนูจะมาเล่าเกี่ยวกับ การเรียน Home school ในแบบที่หนูเรียนค่ะ

หลายคนคงจะคิดว่า การเรียน Home school คงจะสบายเพราะอยู่แต่ที่บ้าน คงไม่ได้ออกไปไหน

ในตอนแรกหนูก็เป็นหนึ่งคนในนั้นที่คิดแบบนี้แหละค่ะ

แต่พอได้มาเรียนจริงๆผิดคาดเลยค่ะ 



ระบบ Home school ของหนู

 จะมีคุณครูแม่ต้น คือคุณครู ที่คอยว่างระบบฝึกฝนกระบวนการคิดของพวก หนูคอยดูแล และหา

คุณครูที่จะมาช่วยสอนให้แต่ละวิชา รวมทั้งเป็นผู้มอบหมายงาน Project ต่างๆให้พวกเราได้ค่อยช่วยกัน

ทำและแก้ปัญหา

การเรียนHome school ของพวกเราเน้น ความเข้าใจเป็นหลัก เข้าใจแบบเป็น concept วิชาพื้นฐานเราต้อง

รู้และเข้าใจมันจริงๆเพื่อนำไปใช้ต่อได้ใน ชีวิตจริง เราเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง การลงมือทำ

และการตั้งคำถาม

เช่น ในระหว่างพวกเราช่วยกันทำกับข้าวแล้วปรากฏว่าเราทำหม้อไหม เราจะได้เรียนรู้ว่า อะไรที่ทำให้

หม้อไหม แล้วมันไหม้เพราะอะไร  มันจะมีสารอะไรจาก วัตถุดิบที่เราใช้เลยทำให้หม้อไหม้ 

ครั้งหน้าเราจะแก้ยังไง อื่นๆอีกเยอะ




คนที่จะสามารถเรียน Home school ได้

ครอบครัวและนักเรียนเองต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนเพื่อจะได้ทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ

 เช่น จะไปเป็นนักวาดการ์ตูนที่ญี่ปุ่นให้ได้ เพราะฉะนั้น

สิ่งที่จะต้องเรียนคือ วาดการ์ตูน เรียน drawing เรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างเข้มข้นเพื่อ ต้องไปเรียนที่ญี่ปุ่น

เพื่อศึกษาการวาดการ์ตูนญี่ปุ่น และต้องฝึกทำ Project ของตัวเองคือการแต่งการ์ตูน (ยกตัวอย่างมาจาก

พี่ที่เรียนด้วยกัน) 

ผู้เรียนต้องมีความรับผิดชอบและจัดการกับชีวิตตัวเองได้

เพราะการเรียน Home school พวกเราจะไม่มีตารางสอนเหมือนใน ที่รร.มากำหนดว่าจะต้องทำอะไรกี่โมง

แต่เราจะต้องเป็นคนจัดสรรค์เวลาตารางชีวิตของเราเอง โดยในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์พวกเราแต่ละคน

ต้องมีเป้าหมายของตัวเองซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นถ้าไม่มีความรับผิดชอบและยังจัดการกับชีวิต

ตัวเองไม่ได้แนะนำว่าอย่าคิดจะมาทำ Home school จะดีกว่าเพราะมิฉะนั้นจะเสียเวลาเปล่า

ผู้เรียนต้องรู้จักตัวเอง

ต้องรู้ว่าตนเองต้องการอะไร จุดแข็งจุดอ่อนของเราคืออะไร จากนั้น

ผู้เรียนต้องรู้จักพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อแก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง.......





ยังไม่จบนะค่ะถ้าอยากรู้ว่า HOME SCHOOLในแบบของพวกเราเป็นอย่างไรรอติดตามต่อสัปดาห์หน้าค่ะ

Sunday 17 November 2013

พิสูจน์ตัวเอง

สวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกแล้วนะค่ะ

"เก่งมาจากไหนก็แพ้หัวใจอย่างเธอ" คงใช้ไม่ได้กับหนูเพราะหนูต้อง เก่งมาจากไหนก็แพ้หัวใจตัวเอง

ไม่ดีเลยเนอะแพ้ใจตัวเองตลอดแต่ ตอนนี้หนูจะเลิกแล้วค่ะ

เชื่อเลยว่าหลายๆคนก็คงเป็นแบบนี้


เคยเป็นกันบ่อยละสิ

มาครั้งนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ข้อคิดของการแพ้ใจตัวเองให้ฟังคะ

ที่ผ่านมาหนูคิดอยากจะทำนู้นี่มากมายเช่นอยาก ออกกำลังกายเพื่อตัวเองจะได้ผอม

อยากจะเรียนร้องเพลง อยากทำงานฝีมือ อยากตื่นเช้าจะได้มีเวลาทำงานอื่นๆเพิ่ม และอื่นๆอีกเยอะ

แต่รู้ไหมค่ะที่บอกว่าอยากทำมาทั้งหมดไม่ประสบความสำเร็จเลย...

 เพราะพอเอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้เพราะใจไม่สู้พอหรือเรียกง่ายๆว่าแพ้ใจตัวเอง 

ยกตัวอย่างเช่นอยากออกกำลังกายจะได้ผอมปรากฏว่าพอ

ออกกำลังกายไปไม่กี่วันก็ท้อแล้วผลก็คือเลิกไม่ยอมสู้ต่อ  อยากตื่นแต่เช้าแต่ก็ทำไม่ได้เพราะพอเอา

เข้าจริงก็นอนต่อแล้วก็ตื่นสายเป็นเพราะความมุ่งมั่นของตัวเองไม่มากพอ

ต้องทำให้ได้!!!


สิ่งแบบนี้เกิดขึ้นมาตลอดหลายปีจนทำให้หนูติดเป็นนิสัย แต่แล้ววันนึงสิ่งเหล่านี้ทำให้หนูต้องมาเจอกับ

งานที่อยากที่สุดงานนึง คือ การพิสูจน์ตัวเองชนะใจตัวเองให้ได้ โดยคนที่ให้โจทย์นี้กับหนูคือ

ครอบครัวและคุณครูของหนู เพราะพวกท่านเล่งเห็นว่าถ้าปล่อยหนูให้เป็นแบบนี้ต่อไปแย่แน่ๆ

ทำอะไรก็คงไม่สำเร็จสักอย่าง





พวกเราครอบครัว Home school เลยร่วมกันช่วยแก้จุดอ่อนจุดนี้ให้หนู

โดยช่วงเวลา 2 เดือนนี้หนูเลือกที่จะเรียนดนตรีร้องเพลงเป็นหลักเพื่อค้นหาตัวเองว่าร้องเพลง

คือสิ่งที่ใช่สำหรับตัวหนูรึป่าวถ้าใช่ก็เดินหน้าต่อเต็มที่แต่ถ้าไม่ก็เลือกทางใหม่

เป้าหมายใหญ่ของหนูที่คุณครูให้โจทย์คือถ้าหนูเลือกร้องเพลงหนูจะต้องร้องเพลง Jazz ให้ได้ต้องโชว์

ได้ซึ่ง มันยากมากกกกก 

จะทำได้มั๊ยน้าาา 

การร้องเพลงบางคนคงคิดว่าดูเหมือนง่ายแต่จริงๆแล้วไม่เลยอยากมากและต้องมีวินัยมากๆด้วย

(ซึ่งตัวเองไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่แต่จะมีแล้ว) เมื่อหนูเลือกที่่จะร้องเพลง หนูจะต้องซ้อมร้องและออก

กำลังกายสม่ำเสมอทุกวันเพื่อให้ปอดขยายและเสียงมีพลังมากขึ้น



ซ้อมๆๆๆๆๆ

หนูจึงต้องทำตารางชีวิตของตัวเองใหม่หมด ต้องตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาวิ่ง ต้องว่ายน้ำเกือบจะวันเว้นวัน

และแต่ละครั้งภายใน 1 ชม. ต้้องว่ายให้ได้ 1000 เมตร ต้องซ้อมดนตรีทุกวัน แต่ยังคงต้องจัดสรรค์เวลา

สำหรับเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไป ต้องทำควบคู่ไปด้วยกัน

บทพิสูจน์นี้หนูเริ่มทำมาได้ ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว

ยอมรับเลยว่าเหนื่อยและท้อมากๆเหมือนกัน แต่ก็ให้กำลังใจตัวเองว่าจะต้องก้าวผ่านจุดนี้ไปให้ได้

สู้ๆๆๆๆๆ


ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆพี่ๆน้องเป็นกำลังใจให้หนูสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ด้วยนะค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก Google นะค่ะ ^^



Sunday 10 November 2013

คิดจะฝันต้องทำฝันให้เป็นจริง



สวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกแล้วนะค่ะ

วันนี้จะมาฝากข้อคิดเล็กน้อยๆให้เพื่อนๆพี่ๆฟังกันนะค่ะ

"คิดจะฝันต้องทำฝันให้เป็นจริง"

ที่ผ่านมาหลายปี จขบ. มีความฝันอยากที่จะเป็นหลายอย่าง ไม่ว่าจะนักร้อง นักจิตวิทยา

อยากทำงานฝีมือของน่ารักๆ แต่ก็ไม่เคยลงมือทำฝันนั้นให้เป็นจริงเลย ได้แต่ฝันไปวันๆ




จนมาถึงวันนี้ความคิดของ จขบ.เปลี่ยนไปถ้าเราฝันอย่างเดียวแล้ว

ถ้าไม่ลงมือทำแล้วเมื่อไหร่ฝันนั้นจะเป็นจริงอย่ารอโอกาสอย่างเดียว


ตัวเราเองต้องวิ่งเข้าหาโอกาสด้วย นอกจากฝันจะไม่เป็นจริงแล้วยังเสียเวลาชีวิตอีกด้วย

แต่

ถ้าเราลงมือทำมันจะทำให้เราได้

ค้นพบตัวเองว่าสิ่งที่เราฝันเราอยากทำใช่ตัวเรารึป่าว แล้วมันจะทำให้เราหาตัวเองเจอได้เร็ว









เครดิตภาพ Google
ปล.ตอนนี้ จขบ.กำลังทำฝันให้เป็นจริงคือ การเรียนร้องเพลงแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะว่าฝันนี้จะใช่ตัวตนของ จขบ.จริงๆป่าว